(exo) I Almost Do | lubaek - (exo) I Almost Do | lubaek นิยาย (exo) I Almost Do | lubaek : Dek-D.com - Writer

    (exo) I Almost Do | lubaek

    ลู่หานตัดสินใจโทรศัพท์หาแบคฮยอนหลังจากทิ้งมาเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ นั่นทำให้เขาได้รับรู้บางอย่างที่ไม่เคยคาดคิด?

    ผู้เข้าชมรวม

    406

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    406

    ความคิดเห็น


    8

    คนติดตาม


    13
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 เม.ย. 58 / 20:18 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น








     

           
     
    SQWEEZ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Title: I  Almost Do

      Pairing: Lubaek  (Luhan x Baekhyun)

      Rating: PG

      Author: kæreste 

      A/N: เรื่องนี้เป็นฟิควูบที่ได้มาจากการฟังเพลง I Almost Do ของ Taylor Swift ซ้ำไปซ้ำมา ๕๕๕๕ เพราะงั้นจะบอกว่าเป็น Song Fic ก็ได้ครัช J กรี๊ดกร๊าดสกรีมลงทวิต อย่าลืมติดแท็ค #ลู่แบคตู้โทรศัพท์แดง เป็นเรื่องสั้น มีแท็คทำไมไม่รู้ ๕๕๕๕
      --------------------------------------------------------------------------------------------------------------

       

      I Almost Do

      I thought your life would be better without me being in it, so I let go of you thinking it’d be good

      But now I just stopped and found myself can’t live without you there

       

      ตู้โทรศัพท์สาธารณะสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศอังกฤษถูกจับจองโดยชายหนุ่มชาวเอเชียวัยยี่สิบต้นมาเป็นเวลาพักใหญ่แล้ว และมันคงไม่แปลกหากว่าเขากำลังยกหูโทรศัพท์เพื่อพูดคุยกับใครบางคนที่อยู่ห่างไกลออกไป ไม่ใช่การยืนนิ่งแล้วจับจ้องสายตาไปที่ของตรงหน้าโดยไม่คิดแตะต้องมันแม้แต่น้อย

       

      มือเรียวข้างหนึ่งกำเศษเหรียญที่เพิ่งแลกมาจากร้านสะดวกซื้อใกล้เคียงแน่นจนขึ้นข้อขาว ริมฝีปากบางถูกเม้มเข้าหากันจนแนบสนิท ในขณะที่ดวงตาคู่สวยมีแต่แววของความลังเล บ่งบอกชัดเจนว่าเจ้าตัวกำลังคิดอยู่ในใจไม่ตกว่าควรจะยกหูโทรศัพท์ขึ้นแล้วกดเบอร์ลงไปเพื่อโทรออก หรือว่าควรจะเดินจากไปจากสถานที่แห่งนี้โดยไม่หันหลังกลับมาอีกกันแน่

       

      ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ลู่หานก็รู้ตัวดีว่าเขาเป็นคนประเภทที่ไม่อาจเอาชนะความกลัวของตัวเองได้อยู่แล้ว นั่นหมายความว่าทุกครั้งทุกคราที่ตั้งใจจะทำอะไรที่ไม่มั่นใจ เขาก็เป็นอันต้องยกเลิกอยู่ดีเพราะความรู้สึกที่เข้าเกาะกุมจิตใจ แต่ว่าในครั้งนี้มันแตกต่างออกไป เขาไม่ได้ต้องทำอะไรที่เสี่ยงหรือต้องตัดสินใจซับซ้อนทั้งสิ้น หากชายหนุ่มก็ไม่คิดว่าเขาควรจะยกหูโทรศัพท์แล้วโทรหาคนรักที่ตัวเองทิ้งมาเรียนต่อหรอก

       

      เขามันนิสัยไม่ดี ก็รู้ตัวดี คนรักดีๆ ที่ไหนกันล่ะที่จะทิ้งแฟนของตัวมาเรียนต่อต่างประเทศโดยไม่บอกกล่าว แต่เพราะเขามันโง่เองถึงได้คิดอะไรทุเรศแบบนั้นออกมา บอกกับตัวเองว่าถ้าอีกฝ่ายไม่รู้และไม่มาส่งก็คงจะดี เขาจะได้ไม่เสียใจกับการจากลาที่สนามบินและหมอนั่นก็จะได้เริ่มต้นใหม่กับใครคนอื่นที่ไม่ใช่เขา

       

      ลู่หานรู้ตัวว่าเขาเป็นแฟนที่แย่มาตั้งแต่เริ่มคบกัน เพราะแบบนั้นถึงได้ตัดสินใจครั้งสุดท้ายเพื่อปล่อยให้คนรักได้เดินออกไปหาคนที่ดีกว่าเขา ดูแลและเอาใจใส่มากกว่าเขา

       

      หากสุดท้ายก็เป็นตัวเขาเองแท้ๆ ที่ไม่อาจทำใจปล่อยอีกฝ่ายให้เดินออกไปจากชีวิตได้ มีหลายครั้งที่คิดจะโทรศัพท์ไปหาและถามไถ่ถึงสารทุกข์สุกดิบ แต่ก็ต้องล้มเลิกกลางคัน เพราะเตือนใจตัวเองเอาไว้ได้ว่าเขาเป็นคนที่เดินจากมาและตัดสินใจเรื่องทั้งหมด

       

      เขาคิดว่าตัวเองจะสบายดี ไม่คิดมาก และมีความสุขกับการที่เห็นคนอื่นดูแลพยอนแบคฮยอนได้ดีกว่าเขา

       

      แต่นั่นมันก็โกหกทั้งเพ ลู่หานเพิ่งจะรู้ตัวว่าเขาหลอกตัวเองมาโดยตลอดว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างสบายใจในชีวิตที่ไม่มีอีกฝ่าย แม้ว่าความจริงจะไม่เป็นเช่นนั้น และตอนนี้ที่เขากำลังเผชิญกับปัญหา แบคฮยอนก็เป็นคนที่เขาต้องการมากที่สุด

       

      ขอแค่ได้ยินเสียงก็ยังดี

       

      จุดรอยยิ้มเศร้าขึ้นบนริมฝีปาก ก่อนมือเรียวจะเอื้อมไปกดเบอร์โทรศัพท์ที่เขาจำได้ขึ้นใจหลังจากยกหูโทรศัพท์เครื่องเก่าขึ้นมาแล้ว ชายหนุ่มหยอดเหรียญจำนวนมากลงไประหว่างรอให้สายต่อไปถึงคนปลายทางที่เชื่อว่ายังคงพำนักอาศัยอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้

       

      ลู่หานได้แต่หวังว่าอีกฝ่ายจะยังไม่ได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หลังจากเก้าเดือนที่ไม่ได้พบกัน

       

      “สวัสดีครับ” เสียงทุ้มของปลายสายที่ฟังดูไม่คุ้นเคย กระตุกหัวใจของผู้ชายที่ตัดสินใจพลาดให้หล่นวูบ ชายหนุ่มเชื้อสายจีนได้แต่ยืนนิ่งเงียบอยู่สักพัก ไม่ได้ทำใจเสียด้วยซ้ำว่าจะต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้ เขาคิดมาตลอดว่าแบคฮยอนจะยังคงใช้เบอร์เดิม เหมือนตลอดหลายปีที่ใช้มันมา

       

      นั่นไงล่ะ นายคิดเองเออเองอีกแล้วนะลู่หาน เหมือนที่คิดมาตลอดก่อนจะบินมาไม่มีผิด

       

      เขายิ้มเยาะตัวเองอยู่ในใจ บางทีความโง่เง่าก็ไม่เคยจากไปแม้แต่วินาทีเดียว

       

      “สวัสดีครับ” สุดท้ายแล้วก็ทำใจกล้า ก่อนจะส่งเสียงตอบกลับไปโดยพยายามไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ผ่านทางน้ำเสียงทั้งสิ้น “นั่นเบอร์ของแบคฮยอนหรือเปล่าครับ”

       

      ตอบฉันทีสิว่าใช่

       

      “ใช่ครับ แบคฮยอนอยู่หลังบ้าน จะให้บอกว่าใครโทร.มาดีครับ”

       

      ลู่หานไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเผลอยิ้มกว้างขนาดไหนตอนที่ได้ยินคำตอบนั้นหลุดออกมาจากปากของผู้ชายแปลกหน้าที่ปลายสาย หัวใจที่เคยห่อเหี่ยวคล้ายจะกลับมาพองโตอีกครั้งเพราะคำพูดนั้น ดีใจจนไม่ได้สนใจอีกแล้วว่าคู่สนทนาที่กำลังพูดด้วยเป็นใคร

       

      “ลลู่หานครับ บอกเขาว่าลู่หานโทร.มา” เขาละล่ำละลักตอบกลับไปอย่างลนลานเพราะความตื่นเต้น

       

      “โอเคครับ ผมจะบอกให้” ปลายสายหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะเงียบไปชั่วครู่ ลู่หานได้ยินเสียงตะโกนเรียกให้เจ้าของชื่อในบทสนทนามารับโทรศัพท์

       

      และเพียงไม่กี่อึดใจต่อมา น้ำเสียงคุ้นเคยที่เขาอยากได้ยินมาตลอดหลายเดือนก็ดังขึ้น

       

      “มีอะไร”

       

      คำทักทายของพยอนแบคฮยอนห้วนสั้นและเย็นชา แต่ลู่หานก็เข้าใจดีถึงสาเหตุของมัน ไม่มีเหตุผลที่จะโกรธอีกฝ่ายในเมื่อเป็นตัวเขาเองที่ทำให้ทุกอย่างพังทลาย อันที่จริงเป็นโชคดีมากแล้วด้วยซ้ำที่แบคฮยอนยอมมารับสายโทรศัพท์จากเขาโดยไม่ก่นด่าใดๆ

       

      ชายหนุ่มจุดรอยยิ้มเล็กๆ ขึ้นบนริมฝีปาก แม้จะรู้ว่าคู่สนทนาไม่อาจมองเห็นมัน

       

      “ไม่มีอะไร แค่อยากได้ยินเสียง”

       

      เสียงพ่นลมทางจมูกแรงๆ ถูกส่งมาตามสายโทรศัพท์ “ถ้าไม่มีอะไรจะวางแล้วนะ”

       

      “เดี๋ยวสิแบคฮยอน”

       

      “ว่าไงล่ะ”

       

      เหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างมาจุกอยู่ที่ลำคอจนไม่อาจพูดสิ่งที่ต้องการออกไป ลู่หานได้แต่นิ่งเงียบแม้จะรู้ว่าหากว่าเขายังคงเป็นเช่นนี้ อีกฝ่ายก็คงตัดสายไปอย่างไม่ไยดี

       

      แต่ว่าเขาจะพูดออกไปได้อย่างไรกันเล่าว่าที่โทรมาเพราะกำลังเจอกับปัญหาหนักอก อยากจะได้กำลังใจจากคนที่เคยรักกัน ฟังอย่างไรก็ดูเป็นคำพูดของคนเห็นแก่ตัวที่ไม่ยอมปล่อยมือออกจากคนที่ตัวเองทิ้งมา ลู่หานเพิ่งจะคิดได้ก็เดี๋ยวนี้เองว่าสิ่งที่เขาทำลงไปมันผิดทั้งหมด

       

      ถ้าเขาอยากให้แบคฮยอนได้เจอกับใครที่ดีกว่า เขาก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งกับชีวิตของอีกฝ่ายอีกในเมื่อเลือกแล้วว่าจะเป็นคนที่เดินจากมาจากจุดที่เคยยืน

       

      แต่ในทางกลับกันแล้ว ถ้าหากว่าเขาไม่คิดว่าตัวเองจะอยู่โดยขาดอีกฝ่ายได้ เขาก็ไม่ควรจะเดินจากมาตั้งแต่แรก

       

      ลู่หาน นายมันโง่

       

      ได้แต่ก่นด่าตัวเองในใจโดยไม่อาจกลับไปแก้ไขอะไรได้เลย

       

      “ลู่หาน ยังอยู่ไหม?” น้ำเสียงของแบคฮยอนที่เจือไปด้วยความกังวลพาให้เจ้าของชื่อยิ้มออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ “นายเป็นอะไรหรือเปล่า”

       

      “เราโอเค ไม่ต้องเป็นห่วง” ชายหนุ่มกรอกเสียงตอบกลับคนรักเก่าไปนิ่งๆ พยายามที่จะไม่แสดงความรู้สึกใดผ่านน้ำเสียงให้มากนัก แต่แบคฮยอนก็คือคนรักที่คบกับเขามาตั้งแต่มัธยม จึงไม่แปลกเลยที่อีกฝ่ายจะไม่เชื่อถือในคำโกหกของเขา

       

      นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลู่หานรู้สึกว่าอีกฝ่ายรู้จักเขาดีจนเกินไป

       

      “ถ้านายโอเคจริง ก็คงไม่โทร.มาหาหลังจากเงียบหายไปเก้าเดือนแบบนี้หรอก” คนทางปลายสายถอนหายใจ “ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไหนๆ ก็โทรมาแล้ว ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”

       

      “ได้สิ”

       

      “ทำไมถึงต้องทิ้งฉันไปเหรอ”

       

      น้ำเสียงของคนถามออกไปทางเรียบเฉย แต่คนฟังกลับรู้สึกว่าหัวใจที่เคยส่งจังหวะถี่รัวเพราะตื่นเต้นที่ได้คุยกับคนรักเก่าเหมือนจะหล่นลงไปกองที่ตาตุ่มอีกครั้ง ลู่หานไม่สามารถนึกหาคำมาบรรยายสาเหตุที่แท้จริงของการเดินจากมาให้ดูดีหรือน่าฟังขึ้นมาได้ และเขาก็ไม่คิดว่าควรจะบอกมันไปตรงๆ กับคนอีกฝั่งฟ้าให้ได้ฟัง แต่ปากเจ้ากรรมก็พลั้งเอ่ยออกไปโดยทันทีที่ได้ฟังคำถาม

       

      “ฉันอยากให้นายได้เจอกับคนอื่นที่ดีกว่าฉัน”

       

      “ก็เลยไปเรียนต่อโดยไม่บอกกันน่ะเหรอ”

       

      ชายหนุ่มได้แต่นิ่งเงียบโดยไม่พูดอะไรออกไป รู้ดีว่าแบคฮยอนคงจะไม่พอใจ หากว่าก็ไม่อยากจะแก้ตัวให้เรื่องวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม ทั้งหมดที่พูดออกไปคือความจริง เขาไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เพราะแบบนั้นการให้คำตอบไปแล้วไม่พูดอะไรอีกอาจจะเป็นการดีที่สุดแล้ว

       

      เขาเงียบ เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง

       

      “ลู่หาน นายคงไม่รู้หรอกนะเพราะนายไม่เคยติดต่อมาเลยหลังจากที่บินไปอังกฤษ”

       

       

      “แต่ว่าตอนที่นายหายไป ฉันกังวลแทบบ้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนายหรือเปล่า แล้วฉันก็ไล่ถามคนอื่นไปทั่วว่านายไปไหนหรือกับใคร และในเมื่อไม่มีใครยอมตอบ ฉันก็เลยพยายามหาด้วยตัวเองว่านายไปไหนจนกระทั่งเพื่อนบ้านของนายยอมบอกฉันว่า นายไปเรียนต่อที่อังกฤษ” น้ำเสียงของพยอนแบคฮยอนไม่ได้สั่งเครือเหมือนจะร้องไห้ แต่มันกลับแฝงไว้ด้วยความเจ็บปวดที่คนฟังสัมผัสได้ “ตอนนั้นฉันรู้แล้วว่านายคงตั้งใจจะทิ้งฉันไปแน่ๆ แต่ว่าฉันไม่รู้ว่าทำไม หรือว่าฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่า นายถึงได้อยากจะเดินออกไปจากที่ตรงนี้”

       

      “เราขอโทษ” นั่นคือทั้งหมดที่เขาจะพูดตอบกลับออกไปได้ ลู่หานได้แต่ฟังความเงียบงันจากคนทางปลายสายที่หยุดพูดไปเสียเฉยๆ เขาไม่รู้ว่าควรจะสรรหาคำใดมาเอ่ยกับแบคฮยอน ไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไรกับสถานการณ์แบบนี้ ทั้งหมดที่เขาคิดตอนที่เดินจากมาก็แค่ว่า ถ้าหากว่าชีวิตของพยอนแบคฮยอนไม่มีเขา อะไรๆ อาจจะดีขึ้น

       

      เป็นการคิดแบบตื้นๆ ของคนโง่ๆ

       

      ความเงียบถูกส่งต่อผ่านกันไปมาระหว่างการโทรศัพท์ข้ามประเทศ แบคฮยอนที่เงียบงันเริ่มพาให้ลู่หานใจคอไม่ดี เขาคงจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าหากว่าอีกฝ่ายจะต่อว่าหรือตัดสายของเขาทิ้งไปตั้งแต่ตอนนี้ การที่ปลายสายยังคงถือหูโทรศัพท์อยู่แต่ไม่พูดอะไรทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก

       

      สุดท้ายก็เลยได้แต่ถามคำถามสั้นๆ ไปอย่างโง่ๆ

       

      แล้วนายถูกใจใครบ้างหรือยังล่ะ”

       

      เสียงพ่นลมออกทางจมูกถูกส่งผ่านมาอีกครั้ง “จนถึงตอนนี้นายยังไม่เข้าใจอีกงั้นเหรอลู่หาน”

       

       

      “ฉันจะไปสนใจใครอีกได้ยังไง ในเมื่อนายคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันเคยมี”

       

       

      “นายอาจจะทำตัวแย่ไปบ้าง แต่ฉันก็รักในทุกๆ ด้านดีๆ ของนาย รักในสิ่งที่นายทำเพื่อฉัน แล้วก็ไม่คิดด้วยว่าฉันจะรักใครได้มากเท่านี้อีก”

       

      “แบคฮยอน

       

      “มันโง่เนอะ ทั้งๆ ที่นายทิ้งฉันไปแท้ๆ แต่ฉันก็ยังหลอกตัวเองอีกว่านายจะกลับมาสักวัน คนอื่นบอกให้ฉันตัดใจจากนายซะ แต่ฉันก็ยังรอ” เขาได้ยินเสียงพยอนแบคฮยอนถอนหายใจดังมาจากอีกฝั่งของโทรศัพท์ “ลู่หาน แค่นายบอกฉันมาว่าไม่เคยรักฉันเลย แล้วฉันจะตัดใจ”

       

      เจ้าของชื่อลู่หานไม่รู้อีกต่อไปแล้วว่าสิ่งที่เขาควรจะทำคืออะไรกันแน่ ทั้งที่อุตส่าห์เดินออกมาเพื่อให้แบคฮยอนได้มีโอกาสได้พบเจอกับใครใหม่ๆ แต่กลายเป็นว่าอีกฝ่ายยังคงรอเขาทั้งที่ไม่รู้จุดหมายปลายทางเสียด้วยซ้ำ คำพูดของแบคฮยอนทำให้เริ่มสับสน จากที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะโทรศัพท์ไปหาเพื่อฟังเสียงที่คุ้นเคยให้คลายกังวลจากหลายเรื่องในชีวิต กลับกลายเป็นว่าเขาต้องมาตัดสินใจจุดต่อไปของความสัมพันธ์ในตอนนี้แทน

       

      ลู่หานเม้มปากเข้าหากันจนแนบสนิท ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ คืออะไรกันแน่ แม้ว่าแบคฮยอนจะบอกว่ารักในด้านดีของเขา โดยให้น้ำหนักกับมันมากกว่าเรื่องแย่ๆ ที่เขาทำ แต่เขากลับไม่แน่ใจจะตัวเองจะสามารถเป็นคนรักที่ดีได้

       

      “แบคฮยอน เราขอโทษ” สุดท้ายก็ได้แต่เอ่ยออกไปเสียงเบา “แต่เราไม่คิดว่าจะเป็นคนรักที่ดี หรือทำให้แบคฮยอนมีความสุขได้”

       

      ...

       

      “เราอยากให้แบคฮยอนเปิดใจ ลองคบกับคนใหม่ๆ ดู แต่ถ้าพอเราเรียนจบแล้วนายยังไม่มีใคร ถึงตอนนั้นเราค่อยกลับไปคบกันดีไหม” นี่คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่เขาคิดขึ้นมาได้ในตอนนี้ ลู่หานจุดรอยยิ้มเศร้าขึ้นบนริมฝีปากของตัวเอง อย่างน้อยๆ เขาก็อยากให้อีกฝ่ายได้ลองเปิดใจแล้วคบกับคนอื่นดู เผื่อว่าจะมีใครที่ทำให้แบคฮยอนมีความสุขได้มากกว่าเขา

       

      ปลายสายนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบกลับมาเสียงแผ่ว “ถ้านายต้องการแบบนั้นล่ะก็

       

      คำตอบจากพยอนแบคฮยอนเหมือนจะเป็นการตอบตกลงกับสิ่งที่เขาเพิ่งจะเสนอไป ถึงแม้ว่ามันจะไม่ชัดเจนนัก แต่ก็มากพอแล้วที่จะยืนยันได้ว่าอีกฝ่ายก็เห็นด้วยและยอมรับในความคิดนั้น และก่อนที่บทสนทนาจะถูกยืดให้ยาวกว่าเดิม ลู่หานก็คิดว่าเขาควรจะตัดสายจากคนอีกฟากฟ้าเสีย แล้วปล่อยให้เวลาอีกสี่ปีทำหน้าที่ของมัน

       

      “งั้นเราวางแล้วนะ” เขาเอ่ยสั้นๆ ก่อนจะวางหูโทรศัพท์กลับเข้าที่เดิมโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์

       

      “เดี๋ยวก่อ----

       

      เสียงทั้งหมดถูกตัดหายไป เหลือเพียงแค่ตัวเขาที่ยืนอยู่ในตู้โทรศัพท์สีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศอังกฤษ เจตนาที่ตั้งใจเอาไว้ในตอนแรกถูกบิดเบือนไปแทบจะทั้งหมด แต่กระนั้นก็ทำให้เขาได้รับรู้ถึงสิ่งที่ไม่เคยคิดคาดมาก่อน

       

      แบคฮยอนยังคงรอเขากลับไป

       

      ลู่หานเปิดประตูตู้โทรศัพท์ให้อ้ากว้าง ก่อนจะก้าวขาออกไปเพื่อกลับสู่ทางเท้าที่ทอดยาวเทียบกับถนน เขาต้องศึกษาที่นี่ต่ออีกเพียงสามปีกว่าๆ เท่านั้นก่อนที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้งหนึ่ง

       

      และในวันที่เขาสำเร็จการศึกษา แล้วเดินทางกลับไปยังที่ที่จากมา

       

      ถึงตอนนั้นก็คงได้รู้ว่าคำตอบของพยอนแบคฮยอนจะเป็นอย่างไร

       

      .END.  19/04/2015  11.44 P.M.

       

       

       

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×